คุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับมะเร็งลำไส้ใหญ่
การศึกษาในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่า น้ำมันขมิ้นชันมีคุณสมบัติช่วยต่อสู้กับมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ซึ่งนับเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยในมนุษย์ การผสมผสานของสาร เคอร์คูมิน (curcumin) และ เทอร์เมอโรน (turmerone) ที่ให้ผ่านทางปาก ทั้งในปริมาณต่ำและสูง สามารถช่วยยับยั้งการก่อตัวของเนื้องอกได้อย่างสิ้นเชิง
ช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท
งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า สาร เทอร์เมอโรน (turmerone) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์หลักในน้ำมันขมิ้นชัน มีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเซลล์ ไมโครเกลีย (microglia) ซึ่งเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในสมองและไขสันหลัง การทำงานที่ผิดปกติของเซลล์นี้ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของสมอง ดังนั้นการที่น้ำมันขมิ้นชันมีสารที่สามารถยับยั้งการทำงานของเซลล์เหล่านี้ได้ จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาโรคทางสมอง
ช่วยรักษาโรคลมชัก
คุณสมบัติในการต้านอาการชักของน้ำมันขมิ้นชันและสารกลุ่มเซสควิเทอร์พีนอยด์ (sesquiterpenoids) ได้รับการพิสูจน์มาก่อนหน้านี้ทั้งในปลาม้าลายและหนูทดลองที่ถูกกระตุ้นให้เกิดอาการชัก และงานวิจัยล่าสุดในปี 2013 ยังยืนยันว่า สาร เทอร์เมอโรน (turmerone) ชนิดหอมยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการชักในหนูทดลองได้
ช่วยบำรุงสุขภาพตับ
ในวงการสุขภาพแบบองค์รวม ขมิ้นชันเป็นที่รู้จักกันดีในความสามารถที่ช่วยบำรุงสุขภาพตับ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่สุดในการขับสารพิษและส่งผลต่อร่างกายทั้งหมด การศึกษาพบว่าขมิ้นชันมีคุณสมบัติในการปกป้องตับ (hepatoprotective) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติในการต้านการอักเสบของมัน
ช่วยต่อสู้กับมะเร็งเต้านม
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Cellular Biochemistry แสดงให้เห็นว่า สาร เทอร์เมอโรน (turmerone) ชนิดหอมที่พบในน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นชัน สามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการแสดงออกของสาร MMP-9 และ COX-2 ในเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ได้
คุณสมบัติร่วมกันของน้ำมันขมิ้นชันและน้ำมันงาดำ
มีการศึกษาพบว่า น้ำมันขมิ้นชันและน้ำมันงาดำมีคุณสมบัติในการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งหลากหลายชนิด ได้แก่ :
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งไขกระดูก
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด
มะเร็งตับอ่อน
เสริมสร้างการป้องกันของเซลล์ภูมิคุ้มกันด้วยคุณสมบัติในการปรับสมดุลและฟื้นฟูร่างกาย
พบแพทย์ออนไลน์
สปาและโรงแรมจัดจำหน่าย